ครม.อนุมัติโครงการประกันภัยข้าวนาปี เพื่อให้เกษตรกรได้มีตัวช่วยในการจัดการความเสี่ยงด้านภัยพิบัติผ่านระบบการประกัน และเป็นความช่วยเหลือของภาครัฐในการรองรับต้นทุนการเพาะปลูกข้าวให้เกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยมีพื้นที่รับประกันภัยทั้งหมดรวม 45.7 ล้านไร่ แบ่งเป็น
- การรับประกันพื้นฐาน หรือ Tier1 ซึ่งมีพื้นที่รวมไม่เกิน 7 ล้านไร่ โดยค่าเบี้ยประกันภัย(ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรแสตมป์) จะกำหนดตามความเสี่ยงจริงของเกษตรกระแต่ละกลุ่ม
- พื้นที่ที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2563 (เกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.) ไม่เกิน 28 ล้านไร่ กำหนดอัตราเบี้ยประกันภัย 97 บาทต่อไร่ เท่ากันทุกพื้นที่ทุกระดับความเสี่ยง
- พื้นที่ที่ไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2563 (เกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.และเกษตรกรทั่วไป) และอยู่ในพื้นที่เพาะปลูกที่มีเสี่ยงภัยต่ำ ไม่เกิน 15.7 ล้านไร่ กำหนดอัตราเบี้ยประกันภัย 58 บาทต่อไร่
- พื้นที่ที่ไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2563 (เกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.และเกษตรกรทั่วไป) และอยู่ในพื้นที่เพาะปลูกที่มีเสี่ยงภัยปานกลางและสูง ไม่เกิน 1 ล้านไร่ กำหนดอัตราเบี้ยประกันภัย 210 บาทต่อไร่สำหรับกลุ่มที่มีระดับความเสี่ยงปานกลางและกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัย 230 บาทต่อไร่สำหรับกลุ่มที่มีระดับความเสี่ยงสูง
- การรับประกันภัยร่วมจ่ายโดยสมัครใจ หรือ Tier2 ซึ่งพื้นที่รวมไม่เกิน 1 ล้านไร่ เป็นการจ่ายเพิ่มจาก Tier1 โดยกำหนดค่าเบี้ยประกันภัยตามความเสี่ยงในแต่ละพื้นที่ต่างต่างกันดังนี้
- พื้นที่เสี่ยงภัยต่ำ (พื้นที่สีเขียว) อัตราเบี้ยประกัน 26.75 บาทต่อไร่
- พื้นที่เสี่ยงภัยปานกลาง (พื้นที่สีเหลือง) อัตราเบี้ยประกัน 52.43 บาทต่อไร่
- พื้นที่เสี่ยงภัยสูง (พื้นที่สีแดง) อัตราเบี้ยประกัน 109.14 บาทต่อไร่
วงเงินการประกันภัยคุ้มครอง 2 กรณี
กรณี 1 ภัยพิบัติธรรมชาติ 7 ภัย คือ น้ำท่วม ฝนตกหนัก, ภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง, ลมพายุ พายุไต้ฝุ่น, ภัยอากาศหนาว น้ำค้างแข็ง, ลูกเห็บ, ไฟไหม้ และภัยช้างป่า วงเงินคุ้มครองในพื้นที่ Tier1 จำนวน 1,260 บาทต่อไร่ และพื้นที่ Tier2 จำนวน 240 บาทต่อไร่ แต่รวมแล้วไม่เกิน 1,500 บาทต่อไร่
กรณี 2 ภัยศัตรูพืชหรือโรคระบาด วงเงินคุ้มครองในพื้นที่ Tier1 จำนวน 630 บาทต่อไร่และพื้นที่ Tier2 จำนวน 120 บาทต่อไร่ แต่รวมแล้วไม่เกิน 750 บาทต่อไร่
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ ธ.ก.ส.ทดลองจ่ายเงินอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยแทนรัฐบาลในส่วนของงบประมาณเพิ่มเติม 2,803.78 ล้านบาท และเบิกเงินชดเชยตามจำนวนที่จ่ายจริงพร้อมด้วยอัตราต้นทุนเงิน ในอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนของ ธ.ก.ส. บวกร้อยละ 1 ในปีงบประมาณถัดไป